นางบัวลอย  จันทร์พ่วง         


      

 

    นางบัวลอย จันทร์พ่วง เกิดเมื่อ ๒๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๕ ที่วัดระนาม หมู่ ๖ ตำบลชีน้ำร้าย อำเภออินทร์บุรี 
จังหวัดสิงห์บุรี บิดาชื่อ นายภู ทิมเกิด มารดาชื่อ นางเฮียง ทิมเกิด สามีชื่อ กำนันประสิทธิ์ จันทร์พ่วง ปัจจุบัน 
ได้ถึงแก่กรรมไปแล้ว นางบัวลอยมีบุตรสาวรวม ๔ คน คือ คนที่ ๑ ชื่อ แพทย์หญิงวิไลวรรรณ จันทร์พ่วง ประจำอยู่โรงพยาบาลอุทัยธานีจังหวัด อุทัยธานี คนที่ ๒ ชื่อ อาจารย์ลัดดา จันทร์พ่วง สอนอยู่ที่ โรงเรียนอินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี

 คนที่ ๓ ชื่อ อาจารย์สมร จันทร์พ่วง สอนอยู่ที่โรงเรียนสิงห์อุดม จังหวัดชัยนาท คนที่ ๔ ชื่อ อาจารย์ดารณี จันทร์พ่วง(ถึงนาค) สอนอยู่จังหวัดลพบุรี
 

 

 

 

          ปัจจุบันนางบัวลอย จันทร์พ่วง อาศัยอยู่บ้านเลขที่ ๑๓๕ หมู่ ๖ ตำบล ชีน้ำร้าย อาชีพ นางบัวลอย จันทร์พ่วง มีอาชีพทำนาเหมือน กับบิดา มารดา และประชาชนในระแวกนั้น ถึงแม้ว่าจะ มีรายได้ไม่มากนัก แต่ก็พอจะส่งเสียลูก ๆ ให้เรียนจบ การศึกษาระดับต่าง ๆ ได้

 

 

 

 

 

                

 

ถึงอย่างไรก็ตาม นางบัวลอย ก็มิได้ทนงตัว ประกอบกับเป็นคนขยันขันแข็ง ไม่ยอมปล่อยเวลาให้ผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์ ยามว่างหลังจากทำนา นางบัวลอย จะไปตัดไม้ไผ่มาจักสานเครื่องใช้ไม้สอยที่จำเป็นต่อการทำนา เช่น กระบุง ตะกร้า งอบ หมวก และอื่น ๆ นอกจากนี้ นางบัวลอยยังได้ถ่ายทอดวิชาความรู้เกี่ยวกับการ จักสานให้แก่เพื่อนบ้าน ชักชวนเพื่อนบ้านมาหัดทำ การกระทำแบบนี้ เป็นที่ทราบดี ของทุกคนในถิ่นนั้น จนกระทั้งในปีพ.ศ ๒๕๒๔ ภาครัฐบาลภายใต้การนำของ นายชิต นิลพานิช ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี ได้เข้าเยี่ยมชม และได้ให้คำแนะนำ ว่าควรมีการรวมกลุ่มกัน จัดเป็นกลุ่มแม่บ้านขึ้น เพื่อผลประโยชน์อีกหลาย ๆ ด้าน กลุ่มแม่บ้านจักสานวัดระนาม จึงได้กำเนินขึ้น โดยมีนางบัวลอย จันทร์พ่วง เป็นหัวหน้ากลุ่ม มีแม่บ้านในหมู่ ๖ ตำบล ชีน้ำร้าย และ หมู่บ้าน ๆ เป็นสมาชิก

 

 

 

 

    

 

 

 

 

 

 

 

ในปี พ.ศ. ๒๕๓๐ - ๒๕๓๒ กลุ่มแม่บ้านจักสานวัดระนาม เจริญถึงขีดสุด หลายครอบครัวในหมู่บ้านหันมายึดอาชีพนี้ มีการ พัฒนารูปแบบและวัสดุอื่น ๆ มาทดลองใช้แทนไม้ไผ่ เช่นผักตบชวา ปอกกล้วย ก้านตาล ก้านมะพร้าว ใบลาน ทุกอย่างพัฒนาถึงจุดสุดยอด จนกระทั่งมีการยกระดับหมู่ ๖ ตำบลชีน้ำร้าย ขึ้นเป็น “หมู่บ้านศิลปหัตถกรรมไทย บ้านระนาม “
      
         
              เพื่อเป็นการส่งเสริมปีหัตถกรรมไทย นายชนะศักดิ์ ยุวบูรณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี ได้ให้เกียรติไปเป็นประธานในพิธีเปิดเกียรติคุณที่เคยได้รับ

         
ระดับประเทศ
- โล่เกียรติยศที่ ๑ จากกระทรวง เกษตรและ สหกรณ์ ปี พ.ศ๒๕๒๔
- โล่เกียรติยศที่ ๑ จากกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย
- เป็นผู้นำอาสาพัฒนาชุมชนดีเด่น ตำบลชีน้ำร้าย อำเภออินทร์บุรีจังหวัดสิงห์บุรี
- เป็นผู้นำ อ.ช.ดีเด่น ประจำปี ๒๕๓๑

ระดับจังหวัด

- รางวัลที่ ๑ จากพัฒนาการจังหวัด ปี พ.ศ.๒๕๓๐ ถึง ๔ รางวัลซ้อน
- รางวัลที่ ๑ ประเภทไม้ไผ่ ( กระเป๋าถือสตรีที่ผลิตจากไม้ไผ่)
- รางวัลที่ ๑ ประเภทหวาย (ตระกร้าหวาย)
- รางวัลที่ ๑ ประเภทผักตบชวา (ภาชนะใส่ผลไม้รูปไก่)
- รางวัลที่ ๒ ประเภทผักตบชวา ผลิตเป็นถาดผลไม้